1. ค่ายบูลลิช: คูนที่มั่นคง + ปันผลทางเทคนิค + พลังแรงส่วนบุคคล

แม้ว่าราคา ETH ยังไม่ขึ้น แต่โค้งชูว่ามูลค่าระยะยาวกำลังสะสมอย่างมั่นคง รากฐานของนิเวศที่แข็งแรง การอัพเกรดเทคนิคที่กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และการปรับปรุงสภาวะแมโครที่ดีขึ้น จัดอยู่ในฐานการสนับสนุนทรีเปิล

1. Ethereum ยังคงเป็นศูนย์กลางที่แท้จริงของโครงสร้างพื้นฐาน: @Matt_Hugan, หมุนเวียนที่ Bitwise ระบุว่า Ethereum ครองความนิยมในสามแนวโน้มใหญ่: stablecoins, การทำเหรียญให้เป็น token และเอเจนต์ AI แต่งตัว. หาก Ethereum สามารถปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ผ่าน Layer 2 โดยไม่สูญเสียความน่าสนใจในสถาบัน การมองโลกของมันเป็นแนวโน้มเชิงบวก. Saul Rejwan, ผู้จัดการพาร์ทเนอร์ที่ Masterkey, คาดการณ์ว่าเมื่อการบรรเทากฎหมายเริ่ม ETH จะเป็นผู้รับผลประโยชน์เป็นคนแรกใน DeFi และ DePIN กลุ่มโดยประมาณ.@BTW0205เชื่อว่าถึงแม้อารมณ์ของระยะสั้นจะแย่งโลกเหรือ แต่ก็ยังคงมีการเคลื่อนไหวในระบบและความได้เปรียบในระดับระบบของ Ethereum ในระยะยาวยังคงทำให้มีโอกาสกลับมาได้—หากมันสามารถสร้างเสร็จเรื่องร่างรายค่าของมันใหม่

2. การอัปเกรดเทคนิคต่อเนื่องเพิ่มโอกาสด้านโครงสร้าง: ด้วยการอัปเกรด Prague/Electra และการปรับปรุงประสิทธิภาพของ rollup, ETH กำลังเร็วขึ้น, ถูกกว่า, และเปิดกว้างมากขึ้น ค่าธรรมเนียม gas ต่ำลงอาจดึงดูดผู้ใช้กลับมาและเสริมความสามารถของ ETH มั่นใจว่าบึ้ลยืนยันว่าการอัปเกรดเหล่านี้ยังไม่ได้ราคาลงไว้@binji_xกล่าวว่า “Ethereum Superchain” กำลังเริ่มเป็นจริงและอาจเปิดโอกาสให้เกิดระยะการเติบโตใหม่

3. สัญญาณของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของระบบนิเวศ@feifan7686เชื่อว่า Ethereum กำลังเปลี่ยนจากเส้นทางขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเป็นเส้นทางที่ถูกนำพาโดยทุนและการพัฒนานิเวศ. อัพเกรด Pectra ปรับแต่งคุณสมบัติของ ETH, การทดสอบครอส-เชนเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในประสิทธิภาพ, และการขยายออราเคิลเพื่อแข่งขันเพื่อความเสถียร. ท่ามกลางการเคลื่อนไหวเหล่านี้คือการ “กู้ตัวเอง” อย่างมีระบบที่เน้นโครงสร้างทุนและการปกครองนิเวศ. ถึงแม้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจไม่แสดงผลทันทีในราคา, ทิศทางเป็นชัดเจน, และทัศนคติโดยรวดเดียวเป็นการสดใส.

4. นักเทรดในตลาดรองขายอ้างว่า "ETH ถูกต้นแบบ": นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง@rovercrcและนักเทรดชื่อดัง ซึ่งเป็น ประธานบริหาร BitMEX ก่อนหน้า@CryptoHayesทั้งสองได้เผยแพร่บทความที่ยืนยันว่า ETH ถูกตลาดประเมินมูลค่าต่ำเกินไป ฮายส์ยังทำนายว่า ETH จะเหนือ SOL และ ถึง $5,000 ในขณะที่มุมมองเช่นนี้เป็นมุมมองที่ตั้งใจ แต่มันสะท้อนถึงวิธีการที่เกิดขึ้นของนักซื้อขายแบบ mainstream ที่เริ่มต้นในการประเมินมูลค่าของ ETH อีกครั้ง

5. ความเหมาะสมของเงินทุนใหญ่เป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อน:@0xVeryBigOrangeอ้างว่า โดยไม่ว่า Ethereum จะมีแผนงานทางเทคนิคหรือการอภิปรายในระบบ สาเหตุหลักที่ทำให้ราคา ETH ขัดข้องคือ การเลี้ยงเงินขนาดใหญ่ยังไม่ได้ถูกปล่อยออกมา มันไม่ใช่ว่า ETH อ่อนแอ แต่กลางทั่วไปยังไม่ได้เข้าสู่ช่วงฉีดเงิน

6. ศักยภาพในการหมุนตลาดโครงกระดูก: การขาดความเคลื่อนไหวของราคาล่าสุดของ ETH ไม่แสดงว่ามันขาดโอกาส—มันแค่หมายถึงการหมุนยังไม่ได้มาถึงมันเท่านั้น ด้วยความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยและความคืบหน้าของ ETF ภายใต้การเคลื่อนไหว ETH มีศักยภาพที่จะเคลื่อนไปจากด้านข้างกลางกลับสู่เวที ราคา DigitalCoinPrice ประมาณว่า ETH อาจกระโดดไปถึง 7,000 ดอลลาร์ โดยสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความหวัง พร้อมกับการพยากรณ์ระยะยาว 47,000 ดอลลาร์ โดยปี 2030

7. TVL ยังคงอยู่ในอันดับ 1 โดยเงินทุนบนโซ่ยังคงถูกจัดสรรอย่างหนักใน ETH: มูลค่ารวมทั้งหมดปัจจุบันของ Ethereum (TVL) คือ 49.85 พันล้านเหรียญ, ซึ่งเท่ากับมากกว่าครึ่งของ DeFi ทั้งหมด ในขณะที่ Solana และ Tron มีประสิทธิภาพอย่างน่าประทับใจ, เมื่อเรื่อง “การเก็บรักษามูลค่าบนโซ่,” ETH ยังคงเป็นทางเลือกที่เสถียรที่สุด

8. อินฟเลชันต่ำ แบบจำหน่ายที่ดีกว่า BTC: อินเนียลอัตราการออก ณ ปีของ ETH จะเพียง 0.5% เท่านั้น ต่ำกว่า BTC 0.83% อย่างมีนัยยิ่ง (อัตราการของ BTC เร็วขึ้น 66% โดยเฉลี่ย เมื่อเปรียบเทียบกับ ETH) มุมมองนี้เน้นที่จะว่า อินฟเลชันต่ำของ Ethereum และโมเดลเงินสดมีความยั่งยืนมากกว่าของ Bitcoin

9. นิวเคลียร์โปรแกรมพัฒนาชั้นนำ: ตามรายงานประจำปีของ Electric Capital ที่ระบุว่า ETH มีส่วนร่วม 65% ของนวัตกรรมโปรแกรมเมอร์ on-chain ทั่วโลก โดยมีนักพัฒนากิจกรรมรายเดือนกว่า 6,200 คน นักพัฒนา Layer 2 กำลังเติบโตที่อัตรา 67% ต่อปี ข้อมูลเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า Ethereum ยังคงรักษาตำแหน่งที่สำคัญในชุมชนนักพัฒนาโปรแกรมเมอร์

10. การปฏิรูปมูลนิธิเสริมความคาดหวังในการปกครอง: Vitalik ได้ประกาศการโครงสร้างใหม่ของมูลนิธิ Ethereum เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจและความโปร่งใส สำหรับสินทรัพย์ซิสเตมิกเช่น ETH การปกครองที่ดีขึ้นหมายความว่ามีความมั่นใจในระยะยาวมากยิ่งขึ้น

ในมุมมองของวัว, Ethereum เป็นที่เก็บรักษาค่าของ Web3, ฐานรากเทคโนโลยีสำหรับทศวรรษต่อไป ราคาในระยะสั้นไม่ใช่ลำดับความสำคัญ

2. ค่ายข้องแก้ว: การลดลงของความเชื่อ + ความล้มเหลวในการจับค่าความสำคัญ + ความ Controversy ของ Roadmap

มุมมองหลักของหมีคือ: สมัยเปลี่ยนแล้ว ในด้านประสิทธิภาพราคา ความแข็งแกร่งโครงสร้าง ประสิทธิภาพ และนาราทีฟ ETH ห่างหายจากคู่แข่ง แผนการเทคนิคของมันยังไม่ได้แปลงเป็นค่าโทเคน และนิเวศของมันเผชิญกับการแบ่งแยกภายใน

1. จากมุมมองของสถาบัน ETH อาจยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างสมบูรณ์@jason_chen998เชื่อว่าพื้นฐานของ Ethereum ล้มเหลว นิเรกบวกที่เหลือเพียงอยู่ที่การเก็บ ETH ผ่าน ETF แต่สถาบันใหญ่ๆ เช่น BlackRock ยังไม่ได้ดำเนินการที่สำคัญ—แสดงให้เห็นว่าอาจจะกำลังกดราคาอย่างตั้งใจเพื่อสะสม นั้นแสดงถึงว่า ETH อาจยังมีความเสี่ยงต่อหลังได้อีก ทัศนคติโดยรวมเป็นเช่นนี้

2. ระบบ Ethereum สูญเสียเครื่องยนต์การเติบโตของมัน: @Loki_Zeng เชื่อว่าระบบนิเวศของ Ethereum เงียบสนิทในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 โดยเมตริกแบบ on-chain ลดลงอย่างรวดเร็ว ภาคส่วนดั้งเดิม (DeFi, L2s, NFT) เกือบจะหยุดชะงักในขณะที่การเล่าเรื่องที่กําลังมาแรงใหม่ (AI, เหรียญ Meme) แทบไม่เกี่ยวข้องกับ Ethereum ตัวเร่งปฏิกิริยาการปักหลัก ETF ที่คาดการณ์ไว้สูงครั้งหนึ่งได้พิสูจน์แล้วว่ามีความไม่แน่นอนในทางปฏิบัติ — เงินทุนขนาดใหญ่พบว่าผลตอบแทนต่ําและต้นทุนสูงยากที่จะพิสูจน์ได้ โดยรวมแล้ว Ethereum ถูกมองว่าขาดโมเมนตัมการเติบโตที่แท้จริงซึ่งนําไปสู่แนวโน้มขาลง

3. ความผิดหวังในเรื่องเรื่อง RWA—Ethereum อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด:

@yuyue_chrisคำถามเกี่ยวกับความสามารถจริงในพื้นที่สินทรัพย์ในโลก (RWA) ของ Ethereum

แม้ว่า ETH ถูกพิจารณาว่าเป็นฐานที่ปลอดภัยสำหรับสินทรัพย์ที่ถูกโทเคนไว้นานแล้ว แต่ประสิทธิภาพราคาที่อ่อนแอและความเสี่ยงในการละลายภายใต้ proof-of-stake (PoS) กำลังทำให้ความน่าเชื่อถือนั้นก้าวลง มุมมองคือความสามารถของ Ethereum ในการสนับสนุน RWA ในขอบข่ายของระดับโลกยังไม่แน่นอน และความสำคัญของเรื่องราว RWA ได้รับการประเมินสูงเกินไป—ทำให้มีทิศทางที่เป็นหมี

1. การเติบโตของผู้ใช้ในเครือข่ายลดลง:@wsy2021111, นักวิจัยที่@PANewsCN, ระบุในบทวิจารณ์เมษายน 2024 ว่าการเติบโตของผู้ใช้ Ethereum mainnet ถูกหยุดชะงักตลอดปีที่ผ่านมา ผู้ใช้ใหม่มากมายกำลังเลือก Layer 2s หรือโซลานาเป็นเชื่อมต่อที่ใหม่กว่า

ในมุมมองของเขา Ethereum กำลังกลายเป็นที่จมของปลาวาฬในขณะที่ผู้ใช้รายย่อยและแอพพลิเคชั่นที่เกิดขึ้นชอบใช้เชนที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและความเร็วสูงกว่า สิ่งนี้เน้นถึงความกดดันที่ Ethereum เผชิญหน้าในการดึงดูดผู้ใช้ใหม่

1. การจำหน่าย ETH กลายเป็นการเพิ่ม: เนื่องจากการลดลงต่อเนื่องของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในเครือข่าย Ethereum อัตราการเผาของ Ethereum รายวันลดลงสู่ระดับที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ สิ่งนี้ทำให้อัตราการเผาที่คาดหวังของ ETH ลดลงอย่างรุนแรง ทำให้มีการเพิ่มจำนวนการจำหน่ายปีละประมาณ 0.76% — ราวๆ 945,000 ETH ใหม่ที่พิมพ์ต่อปี ณ ตอนนี้ จำนวนการจำหน่ายรวมของ Ethereum ได้เกินระดับก่อนการผสานเข้าด้วยกัน

2. อัตราส่วน ETH/BTC แตะระดับต่ําสุดในรอบห้าปี: เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นักวิเคราะห์ James Van Straten ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราแลกเปลี่ยน ETH ต่อ BTC ลดลงเหลือ 0.02193 ซึ่งเป็นระดับต่ําสุดในรอบห้าปี ด้วยการชุมนุมที่ลดลงครึ่งหนึ่งของ Bitcoin และการหมุนเป็นเลเยอร์ 1 ใหม่ ETH ได้กลายเป็น "โทเค็นหลักที่มีประสิทธิภาพน้อยที่สุด" เงินทุนไหลออกอย่างต่อเนื่องและศรัทธาของนักลงทุนก็ลดลง

3. การเติบโตของ Solana และ L1 ใหม่กำลังทำให้การแข่งขันของ ETH เพิ่มมากขึ้น: Solana มีประสบการณ์การใช้งานที่เบาลงและบรรยากาศทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวามากขึ้น ดึงดูดผู้ใช้ใหม่และนักพัฒนามากมาย โซนอื่น ๆ เช่น Base และ Sui ก็กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

mainnet Ethereum, ในทวีปเอเชียได้กลายเป็นดินแดนขององค์กรและโครงการดั้งเดิมอย่างมาก ทำให้สูญเสียความน่าสนใจต่อผู้ประกอบการที่เป็นคนเยาว์และนวัตกรรมมากขึ้น

1. ความสงสัยเกี่ยวกับเส้นทางเทคนิคของ Ethereum—การทำให้มีคุณค่าหรือการประเมินค่าต่ำลง: นักลงทุน John Pfeffer อ้างว่าเส้นทางปัจจุบันของ Ethereum มีประโยชน์ต่อผู้ใช้ แต่เสื่อมคุณค่าของโทเค็น การขยายสเกลเลเยอร์ 2 และการเปลี่ยนจาก Proof of Stake (PoS) ลดการแออัดใน mainnet และค่า Gas ซึ่งทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้ดีขึ้น—แต่ก็ลดจำนวน ETH ที่เผาไหม่ต่อธุรกรรมละ ทำให้คุณค่าของ ETH ลดลง

2. แอปพลิกฐานอาจออกจากเครือข่าย: ณ สิ้นปี 2024 มีการข่าวลือในวงการว่า Uniswap กำลังวางแผนการเปิดตัวเครือข่ายของตัวเอง Uniswap เป็นแหล่งให้บริการแก๊สที่ใหญ่ที่สุดของ Ethereum โดยมีส่วนร้อยต่อเกิน 14% หากเกิดการย้ายพลังงาน Ethereum อาจสูญเสียรายได้จำนวนร้อยล้านดอลลาร์ต่อปีและเป็นแหล่งเผา ETH ที่สำคัญ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการแบ่งเส้นทางของระบบนี้ไปอีก

3. มูลนิธิ Ethereum ถูกกล่าวหาว่าถอนเงินออกที่ด้านบน - ความไว้วางใจด้านการกํากับดูแลถูกตั้งคําถาม: ณ สิ้นปี 2024 มูลนิธิ Ethereum ถูกเปิดเผยสําหรับการขายที่จุดสูงสุดของตลาดทําให้เกิดการเก็งกําไรของ "ความเชื่อมั่นขาลงภายใน" เมื่อรวมกับปัญหาต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพการกํากับดูแลที่ต่ําและความคืบหน้าในการปรับขนาดที่ช้าสิ่งนี้นําไปสู่ความเชื่อมั่นของชุมชนที่ลดลงในการพัฒนาในอนาคตของ Ethereum

4. การโต้แย้งในชุมชนเกี่ยวกับทิศทาง: ผู้นำฐาน Jesse Pollak และนักพัฒนา Ethereum รุ่นหลัก Dankrad Feist ได้แสดงความเห็นที่แตกต่างอย่างเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีที่ Ethereum ควรพึ่งพา Layer 2s เทียบกับ mainnet. ความขาดของทิศทางชัดเจนและการดำเนินการช้าได้กลายเป็นปัญหา แม้ว่า Vitalik จะพูดเป็นสาธารณะ วิสัยยุทธศาสตร์โดยรวมดูไม่ชัดเจนและไม่สอดคล้อง

สรุปแล้ว ตรรกะหลักของพรรคหมีคือ: Ethereum กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เทคโนโลยีก้าวหน้า แต่ราคากลับหดหู่—ในขณะที่การโฟกัสที่ระบบนิเวศ อำนาจนิยม และการเติบโตของผู้ใช้กำลังล่มสลายอย่างเงียบ ๆ

3. ดังนั้น คำสั่งควรจะทำตอนนี้คืออะไร

โดยดูจากปัจจัยที่ส่งเสริมและปัจจัยที่ขัดแย้งด้านบวกและด้านลบข้างต้น เราสามารถวิเคราะห์จากมุมมองของผู้ถือ ETH และการตัดสินใจได้ดังนี้:

1. ผู้ถือค่ามูลค่าในระยะยาว

ถ้าคุณเชื่อว่า ETH แทนชั้นฐานของโลกคริปโตในอนาคต - ที่ได้รับการสนับสนุนจากฐานผู้พัฒนาที่กว้างขวางที่สุด นิวัติระบบเดฟายที่แข็งแกร่งที่สุด และแผนที่เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง - และว่านักพัฒนา ทุน และนิเวศกรรมโครงสร้าง (เช่น DePIN, AI Agent, RWA) ยังไม่ล่มสลาย จึงเป็นเหตุผลที่ถูกต้องที่จะดำเนินการถือหรือสะสมเพิ่มเรื่อย ๆ โดยรอให้วงจรถัดไป

2. นักลงทุนที่มองหากำไรในระยะสั้นถึงกลางหรือผู้ถือความเสี่ยงที่ตั้งใจ

ในขณะนี้ การลดครอง ETH อย่างมีสมาชิกอาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกว่า หลังจากทั้งหมดมีเหตุผลที่เป็นแรงกระตุ้นมากมายที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ในระยะกลางถึงยาวนาน ในขณะที่ในระยะสั้น ETH อาจยังคงเปลี่ยนแปลงหรืออ่อนแอต่องการของตลาด ข้อเศร้าโศกที่เช่นกัน - เช่น การแข่งขันทางธุรกิจและความท้าทายในการเข้าถึงมูลค่า - ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ภายในหนึ่งหรือสองไตรมาสเท่านั้น

ในขณะนี้อาจจะคิดว่าควรลดความเสี่ยงโดยการรักษาตำแหน่งฐานและปรับเปลี่ยนอย่างยืดหยุ่น คุณสามารถจัดสรรทุนเพิ่มเมื่อแนวโน้มของ ETH เป็นที่ชัดเจนมากขึ้น หรือมีการเทรดสวิงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของทุน กลยุทธ์เน้นที่กลางอาจประกอบด้วยการถือตำแหน่งหลักบางส่วน (เพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดโอกาสในการพัด ขณะใช้เงินที่เหลือในการเทรดสวิงหรือการจัดสรรไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ เพื่อเลี่ยงค่าโอกาสของการถือ ETH)

3. ผู้ถือสำรองที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพในระยะสั้น หรือผู้สงสัยเกี่ยวกับทิศทางของ Ethereum

การนำเข้าแนวการวางท่าที่ระมัดระวังอย่างมีเหตุผลก็เป็นทางเลือกที่ดี เราสามารถพิจารณาการออกจากตำแหน่งส่วนใหญ่เมื่อราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันยังคงติดตามตัวชี้วัดสำคัญในระบบโลกของ Ethereum (เช่นกิจกรรม on-chain) หากมีสัญญาณชัดเจนของการปรับปรุงในพื้นฐานในอนาคต หรือมีนิเวศใหม่เกิดขึ้น แล้วคุณสามารถปรับตำแหน่งของคุณให้เหมาะสมตามได้

คำชี้แจงเกี่ยวกับความเสี่ยง: ข้างต้นนี้มีไว้เพื่อการแบ่งปันข้อมูลเท่านั้น และไม่ใช่การให้คำแนะนำในการลงทุน

คำปฏิเสธ:

1. บทความนี้ถูกพิมพ์ซ้ำจาก [ TechFlow]. ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [Biteye]. If you have any objections to this reprint, please contact the Gate Learnทีม ทีมจะดำเนินการโดยเร่งด่วนตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. ข้อความที่แสดงในบทความนี้เป็นความคิดเห็นและมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เป็นคำแนะนำในการลงทุนใด ๆ

3. เวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn โดยไม่ต้องกล่าวถึง Gate.io, ไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาที่ถูกแปลได้ แจกจ่าย หรือทำการลอกเลียนหรือลอกเลียนแบบ